บริการขนส่งทางอากาศ
บริการขนส่งทางอากาศที่รวดเร็วและเชื่อถือได้สำหรับสินค้าเร่งด่วน
LEO Global Logistics PCL ดำเนินธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและโลจิสติกส์ครบวงจร โดยเป็นบริษัทชั้นนำแนวหน้าสัญชาติไทยที่มีศักยภาพในการให้บริการทัดเทียมกับบริษัทระดับนานาชาติ เราดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักคำนึงถึงการตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า การันตีความน่าเชื่อถือด้วยการการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO9001:2015 ตอกย้ำความสามารถในการส่งมอบบริการได้ตามความต้องการของลูกค้า
ด้วยประสบการณ์มากกว่าสามทศวรรษในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เรามอบบริการชั้นยอดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ทีมงานขายกว่า 30 คน ที่มากด้วยความรู้ ประสบการณ์และความสามารถในการให้บริการ
ทั้งค่าระวางการขนส่งสินค้าทางเรือ ทางอากาศ และมีหน่วยงานที่ดำเนินพิธีการทางศุลกากรเอง ยกระดับประสิทธิภาพและความราบรื่น
ใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี กระทรวงคมนาคม ในการดำเนินธุรกิจผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ สำหรับเอกสาร B/L (Bill of Lading) ทุกฉบับของบริษัทฯ
เป็นสมาชิกในเครือข่ายโลจิสติกส์ระดับนานาชาติ มากว่า 10 เครือข่าย และเป็นสมาชิกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) สมาชิกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ (TAFA) และสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย (The Customs Broker and Transportation Association of Thailand; CTAT)
บริการโลจิสติกส์
แบบครบวงจรของเรา
บริการขนส่งทางอากาศที่รวดเร็วและเชื่อถือได้สำหรับสินค้าเร่งด่วน
โซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับการขนส่งทางทะเลทั่วโลก
การขนส่งทางถนนและทางรางข้ามพรมแดนที่มีประสิทธิภาพ
บริการขนส่งสินค้าโครงการและสินค้าขนาดใหญ่โดยผู้เชี่ยวชาญ
บริการจัดเก็บและกระจายสินค้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
บริการจัดการเครือข่ายโลจิสติกส์แบบครบวงจร
บริการทางด้านโลจิสติกส์อื่นๆ ที่ครอบคลุมความต้องการของคุณ
จัดตั้ง บริษัท LEO Transport Corporation จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ไปยังเมืองท่าหลักทั่วโลก
จัดตั้ง บริษัท LEO Group เป็นบริษัท Holding company
จัดตั้ง บริษัท Royal Trainer Corporation จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล โดยเน้นภูมิภาคยุโรปและอเมริกา
ร่วมจัดตั้ง บริษัท TIFFA จำกัด เพื่อลงทุนในกิจการอื่นเพื่อประกอบกิจการโรงพักสินค้าหรือสถานที่บรรจุจัดทำหีบห่อเพื่อการส่งออกและนำเข้า และธุรกิจที่ให้บริการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบเชื่อมโยงสถาบันการศึกษาวิชาชีพรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (International Transport and Business School - ITBS)
ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ร่วมจัดตั้ง บริษัท Sinokor Merchant Marine (ประเทศไทย) กับ Sinokor Merchant Marine Co., Ltd. สายการเดินเรือจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนสายการเดินเรือ Sinokor ประจำประเทศไทย ให้บริการขนส่งด้วยตู้สินค้า ภายในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และให้บริการ เช่า เรือเทกอง และเรือตู้สินค้า
บริษัท LEO Transport Corporation จำกัด ขยายสาขาไปยังแหลมฉบัง เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
บริษัท LEO Transport Corporation จำกัด ลงทุนในบริษัท Kyungpyung Logistics Company Limited (“KPL”) ประเทศเกาหลี ร่วมกับ Sinokor และนิติบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้ เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพักสินค้าและลานเก็บตู้สินค้า
บริษัทฯ เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท LEO Group จำกัด เป็น บริษัท LEO Global Logistics จำกัด เพื่อให้ชื่อของบริษัทฯ สื่อสารถึงขอบเขตธุรกิจของบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน
บริษัทฯ ร่วมจัดตั้ง บริษัท YJC Depot Services จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ระยะสั้นและระยะยาว และให้บริการรับทำความสะอาดและซ่อมตู้คอนเทนเนอร์
บริษัทฯ ได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 จาก SGS (Thailand) Co., Ltd
บริษัทฯ ขยายสาขาอีกหนึ่งแห่ง คือ สาขาสุวรรณภูมิ โดยเน้นธุรกิจดำเนินพิธีการศุลกากรและการขนส่งทางอากาศ
บริษัทฯ จัดตั้งบริษัท Aramex (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับกลุ่ม Aramex ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งพัสดุและเอกสารเร่งด่วนระหว่างประเทศ (Courier and Express)
บริษัทฯ จัดตั้งบริษัท LEO Myanmar Logistics จำกัด ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศเมียนมาร์ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ประเทศเมียนมาร์
บริษัทฯ ได้รับรางวัลผู้ประกอบการที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ ประจำปี 2559 (Excellent Logistics Management Award หรือ “ELMA”) สาขา 3rd Party Logistics Services Provider (3PL) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
บริษัทฯ จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
บริษัทฯ เปิดให้บริการ LEO Self-Storage ดำเนินการธุรกิจใหม่เพื่อให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ ลูกค้ารายย่อย ได้แก่ ผู้อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม รวมถึง ผู้ประกอบการ SMEs และ E-Commerce
บริษัทฯ ร่วมจัดตั้งบริษัท TAFA Consortium จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
บริษัทฯ ได้รับรางวัลผู้ประกอบการที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ ประจำปี 2562 (Excellent Logistics Management Award หรือ “ELMA”) สาขาผู้ให้บริการตัวแทนในการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (International Freight Forwarding) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และรางวัล ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการดีเด่นประจำปี 2562 (Prime Minister’ s Export Award 2019) สาขา Best Service Enterprise Award
บริษัทฯ ได้รับการประกาศอนุญาตให้เป็นตัวแทนออกของระดับมาตรฐานเออีโอ Authorized Economic Operator (AEO)
บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2020
บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรและตัวแทนในประเทศไทยของบริษัท China Post Yunnan (China Post) ภายใต้ China Post Group Peking ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจ เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ
บริษัทฯ ร่วมจัดตั้งบริษัท คาร์ดินัล มาริไทม์ (ประเทศไทย) เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเน้นตลาดในประเทศอังกฤษ ยุโรปเหนือ และประเทศต่างๆ ทั่วโลก
บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนกับ Advantis Freight (PVT) Limited จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ เพื่อประกอบธุรกิจการดำเนินการ Logistics & Distribution Center
บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนกับบริษัท HK Asset Management Company Limited จำกัด บริษัทในเครือบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ คือ บริษัท ลีโอเอสเค จำกัด
บริษัทฯ จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ คือ บริษัท ลีโอ ซอร์สซิ่ง แอนด์ ซัพพลายเชน จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ ในการเป็นตัวแทนในการจัดหาสินค้าจากประเทศไทยส่งออกไปประเทศจีนให้กับบริษัท China Post และ บริษัท Yunnan Tengjun
จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์ ชื่อ LEO Global Logistics Pte. Ltd เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และการให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์
บริษัทฯ ร่วมจัดตั้งบริษัท ล้านช้าง เอ็กเพรส จำกัด ร่วมกับ บริษัท ศรีตรัง โลจิสติกส์ และบริษัท เบาไทย อินเด็กซ เพื่อ ดำเนินการทำธุรกิจขนส่งทางรถไฟและขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบไปประเทศจีนและประเทศลาว
สร้างทัศนคติของพนักงาน ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความคิดเป็นระบบ มีความเป็นผู้นำและมีความคิด สร้างสรรค์ มีใจรักบริการ เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่ มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่
สร้างแรงจูงใจและสร้างพลังส่งเสริมให้พนักงานสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาให้มากที่สุด โดยการมอบและกระจายอำนาจ เพื่อให้การบริหารและการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายขององค์กร
เปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้อยู่เสมอ มีความใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์ และส่งเสริมให้พนักงานได้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเอง และมีความสามารถในการ ถ่ายทอดความรู้ของตนเองให้กับทีมงานได้
เป็นองค์กรที่ทันสมัยและมีความคล่องตัวในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค
บริษัทฯ จะเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรชั้นนำของไทยที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก โดยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า พนักงาน และนักลงทุน
บริษัทฯ ตระหนักถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) จึงได้กำหนดพันธกิจที่จะทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าและคู่ค้าตลอดจนพนักงานของบริษัทฯ เราเป็นกลุ่มบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยมีระบบงานที่เป็นเลิศและพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพ บริษัทฯ มีการพัฒนานโยบายคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถบรรลุพันธกิจของเราที่ให้ความสำคัญกับความสำเร็จทางกลยุทธ์ 4 ข้อ คือ
บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดการยอมรับในการเป็นองค์ชั้นนำของคนไทยที่ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร โดยมีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการธุรกิจอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพตรงตามระบบคุณภาพตามมาตรฐานสากล และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการในฐานะองค์กรมหาชน
สร้างการเจริญเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องในธุรกิจ Logistics Services แบบ Organic และ Inorganic และธุรกิจ Non-Logistics ที่มี Growth and High Margin Potential
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและดูแลลูกค้ารายหลัก (Key Customer) ให้ได้รับการบริการที่ดี โดยมีระบบการให้บริการลูกค้าและการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) อย่างต่อเนื่อง
มุ่งเน้นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งสายเรือ สายการบิน และผู้ให้บริการเสริมอื่นๆ ภายในประเทศและขยายเครือข่าย โดยการสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน (Good Corporate Governance with Social Responsibility and Sustainable Growth)
พัฒนาและเสริมสร้าง ความรู้และทักษะ Outward Mindset ของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด Service Excellent และเป็น Solution Provider ให้กับลูกค้า
ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น พร้อมปรับปรุงกระบวนการทำงานให้คล่องตัว และปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร
ในปี 1990 คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมจัดตั้ง LEO Transport Corporation (LEOT) เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) แบบไม่เต็มตู้ (Less than Container Load หรือ “LCL”) ไปยังเมืองท่าหลักต่างๆ ทั่วโลก และต่อมาได้ขยายบริการขนส่งสินค้าทางทะเลแบบเต็มตู้ (Full Container Load หรือ “FCL”) และในปี 1991 ได้ก่อตั้ง LEO Group Ltd เพื่อดำเนินการในฐานะ Holding Company เพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มบริษัทฯ
จากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจของโลกในช่วงวิกฤติการณ์ทางการเงินปี 1997 เศรษฐกิจในหลายประเทศมีอัตราการเติบโตชะลอตัวและส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้มีการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ทางการแข่งขันในการทำการตลาด โดยหันมาพัฒนาการขนส่งแบบครบวงจรนอกเหนือจากการให้บริการรับจัดการขนส่งทางทะเลเพียงอย่างเดียว
และในปี 2008 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น LEO Global Logistics เพื่อให้สามารถสื่อสารถึงภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถสะท้อนศักยภาพในการให้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ที่สามารถครอบคลุมทั่วโลกแบบครบวงจร (End-to-End Global Logistics Services) จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ ดังเช่นในปัจจุบัน
โดยตลอดระยะเวลากว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา LEO Global Logistics ได้พัฒนาและนำเสนอบริการที่หลากหลายครบวงจร ครอบคลุมเครือข่าย 190 ประเทศทั่วโลก ด้วยศักยภาพในการให้บริการทัดเทียมกับบริษัทระดับนานาชาติ ทั้งยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยและร่วมลงทุนในบริษัทร่วมเพื่อสนับสนุนธุรกรรมหลักของบริษัทฯ
อนึ่ง ในปี 2017 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และในปี 2020 ได้เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
โดยบริษัทฯ ได้รับการยอมรับด้านความเป็นเลิศในอุตสาหกรรม และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิ Excellent Logistics Management Award (ELMA) ปี 2016 และ ปี 2019 , รางวัล Prime Minister's Award 2019,รางวัล Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2023 และ รางวัล Best CEO Award พร้อมรางวัล Outstanding Company Performance Awar จากงาน the Stock Exchange of Thailand (SET) Awards 2023
ทั้งนี้ ปัจจุบัน LEO Global Logistics PCL. ยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้การผลักดันนวัตกรรมในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง